| 
                                	
                
                    
						   	
                           			  นางชลลดา อรรณนพพร                             นายกเทศมนตรีตำบลหนองสองห้อง                     
        
            
         
            | 
                                                                
                                    | เปิดเว็บไซต์ | 10/08/2015 |  
                                   | ปรับปรุง | 30/10/2025 |  
                                    | สถิติผู้เข้าชม | 3078042 |  
                                    | Page Views | 4540033 |  |  
|  |  | 
                                        
                                            
                                         
                                            | ศาสนา  ประเพณี  วัฒนธรรม ๑.  ศาสนา
 
 วัดในเขตเทศบาลตำบลหนองสองห้อง  มี  ๓  แห่ง  ได้แก่
 
 
	
		วัดรัตนนิมิต   หมู่ที่ ๑๗  บ้านรัตนวารี
		วัดนิเวศวิทยาราม  หมู่ที่ ๔  บ้านไทยนิยม
		วัดเกาะสะอาด  หมู่ที่ ๑๘  บ้านหนองสองห้องใต้ ๒.  ประเพณีและงานประจำปี
 ประชาชนในเขตเทศบาลตำบลหนองสองห้องทั่วไปได้รักษาขนบธรรมเนียม  ประเพณีและวัฒนธรรมโบราณของตนไว้หลายอย่าง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเพณีที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา  ซึ่งตนเลื่อมใสศรัทธาโดยจำแนกได้  ดังนี้
 ๑)  บุญกุ้มข้าวใหญ่  นิยมทำกันในเดือนยี่หรือหลังจากการเก็บเกี่ยว  มีการนำข้าวเปลือกมากองรวมทำบุญกุ้มข้าวใหญ่  โดยใช้ศาลากลางบ้านหรือศาลาโรงธรรม  ทุกครัวเรือนหาบข้าวเปลือกของตนออกมารวมกันกลางคืนมีการเจริญพระพุทธมนต์  รับศีลฟังเทศน์  มีมหรสพสมโภช  ตอนเช้ามีการถวายอาหารและข้าวเปลือกการทำบุญข้าวใหญ่จึงถือว่าได้บุญกุศลมาก
 ๒)  บุญข้าวจี่  หรือบุญเดือนสาม  ทำโดยการนำข้าวเหนียวที่ปั้นโรยเกลือ  ทาไข่ไก่  และจี่ไฟให้สุก  เรียกว่าข้าวจี่  การทำบุญข้าวจี่มีคนนิยมทำกันมากเพราะถือว่าได้กุศลมาก  และเป็นกาละทานชนิดหนึ่ง
 ๓)  บุญพระเวสน์  หรือบุญเดือนสี่  บุญที่มีการเทศน์พระเวสน์หรือมหาชาติ  เรียกบุญพระเวสน์     หนังสือมหาชาติหรือเวสสันดรชาดก  เป็นหนังสือชาดกที่แสดงจริยาวัตรของพระพุทธเจ้า  คราวพระองค์เสวย  พระชาติเป็นพระเวสสันดร  เป็นหนังสือเรื่องยาวมี  ๑๔  ผูก  บุญพระเวสสันดรกำหนดทำในเดือนสี่
 ๔)  ตรุษสงกรานต์  กำหนดเอาวันที่  ๑๓  เป็นวันตรุษสงกรานต์ของทุกปี  จะมีการรดน้ำพระพุทธรูปพระสงฆ์  และผู้หลักผู้ใหญ่  เรียกว่าสรงน้ำ  การทำบุญมีให้ทาน  เป็นต้น  เกี่ยวแก่การสรงน้ำเรียกบุญสรงน้ำอีกอย่างหนึ่งว่าตรุษสงกรานต์  “ตรุษ”  คือสิ้นสงกรานต์  คือการเคลื่อนย้ายได้แก่  วันที่พระอาทิตย์เคลื่อนย้ายจากฤดูหนาว  ก้าวขึ้นสู่ฤดูร้อนในระยะนี้เรียกว่าตรุษสงกรานต์
 ๕)  บุญบั้งไฟ  หรือเรียกว่าบุญเดือนหก  การนำเอาดินปะสิว  (ขี้เจีย)  มาคั่วผสมกับถ่านเรียกว่าหมื่อ  เอาหมื่อใส่กระบอกไม้ไผ่  (ปัจจุบันพัฒนาเป็นท่อพลาสติกหรือท่อพีวีซี)  ตำให้แน่นแล้วเจาะรูเรียกว่าบั้งไฟ
 ๖)  บุญเข้าพรรษา  การอยู่ประจำในอาวาสแห่งเดียวตลอด  ๓  เดือน  ในฤดูฝนเรียกว่าเข้าพรรษาโดยปกติกำหนดเอาวันแรม  ๑  ค่ำ  เดือน  ๘  เป็นวันเข้าพรรษาซึ่งชาวบ้านจะมีการถวายผ้าอาบน้ำฝน  ถวายเทียนพรรษาและมีการทำบุญ  เป็นต้น
 ๗)  บุญออกพรรษา  การออกจากเขตจำกัดไปพักแรมที่อื่นได้เรียกว่าออกพรรษา  พรรษาหมายถึงฤดูฝนปีหนึ่งมี  ๔  เดือน  คือตั้งแต่แรม  ๑  ค่ำ  เดือน  ๘  ถึง  ขึ้น  ๑๕  ค่ำเดือน  ๑๒  ในระยะ  ๔  เดือน  ๓  เดือน  แรกให้เข้าพรรษาก่อนเข้าครบกำหนด  ๓  เดือน  แล้วให้ออกอีก  ๑  เดือน  ให้หาผ้าจีวรมาผลัดเปลี่ยน           การทำบุญมีให้ทาน  เป็นต้น
 นอกจากนี้ยังมีความเชื่อเดิมที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่โบราณ  คือฮีตสิบสองคองสิบสี่  ฮีตสิบสอง          มาจากคำ  ๒  คำ  คือฮีต  กับสิบสอง  ฮีตมาจากคำว่าจารีต  หมายถึงสิ่งที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาจนกลายเป็นประเพณีที่ดีงาม  ชาวอีสานเรียกว่าจาฮีต  หรือฮีตสิบสองหมายถึงเดือนทั้ง  ๑๒  เดือน  ในหนึ่งปีฮีตสิบสอง  จึงหมายถึงประเพณีที่ประชาชนชาวอีสานได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาในโอกาสต่าง ๆ  ทั้งสิบสองเดือนในแต่ละปี  ประเพณีทั้งสิบสองเดือนที่ชาวอีสานถืเอปฏิบัติกันมานั้นล้วนเป็นประเพณีที่ส่งเสริมให้คนในชุมชนได้  ออกมาร่วมกิจกรรมพบปะสังสรรค์กัน  เพื่อความสนุกสนานรื่นเริงและเพื่อความสมานสามัคคีมีความรักใคร่กัน  ของคนในท้องถิ่น    ซึ่งเป็นการสืบทอดสิ่งที่ดีงามมาจวบจนปัจจุบัน  ประเพณีอีสานส่วนใหญ่จะมีเอกลักษณ์แตกต่างจากประเพณี  ภาคอื่น ๆ  (อาจคล้ายคลึงกับประเพณีของทางภาคเหนือบ้างเพราะมีที่มาค่อนข้างใกล้ชิดกัน)  ประเพณีอีสานได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมล้านช้าง  (แถบหลวงพระบางประเทศลาว)  จึงจะเห็นได้ว่าประเพณีของชาวอีสานและชาวลาวมีความคล้ายกันเพราะมีที่มาเดียวกันและชาวอีสานและชาวลาวก็ไปมาหาสู่กันเป็นประจ้ำยี่ยมญาติพี่น้องทำให้มีการถ่ายเทวัฒนธรรมระหว่างกันด้วย
 คองสิบสี่หมายถึง  ครองธรรม  ๑๔  อย่าง  เป็นกรอบหรือแนวทางที่ใช้ปฏิบัติระหว่างกัน  ของผู้ปกครองกับผู้ใต้ปกครอง  พระสงฆ์  และระหว่างบุคคลทั่วไป  เพื่อความสงบสุขร่มเย็นของบ้านเมือง  คองสิบสี่มีหลายแบบหลายประเภทพอจะยกตัวอย่างได้  ดังนี้
 คองสิบสี่แบบที่  ๑  - กล่าวถึงผู้เกี่ยวข้องกับครอบครัวในสังคมตลอดจนผู้มีหน้าที่ปกครองบ้านเมือง
 คองสิบสี่แบบที่  ๒  - กล่าวถึงหลักการที่พระมหากษัตริย์ทรงปฏิบัติในการปกครองบ้านเมือง  และข้อที่ประชาชนควรปฏิบัติต่อพระมหากษัตริย์  และจารีตประเพณีที่พึงปฏิบัติให้บ้านเมืองสงบสุข
 คองสิบสี่แบบที่  ๓  - กล่าวถึงธรรมที่พระราชาพึงยึดถือปฏิบัติ  และเน้นหนักให้ประชาชนปฏิบัติตามจารีตประเพณี  และข้อที่คนในครอบครัวพึงปฏิบัติต่อกัน
 คองสิบสี่แบบที่  ๔  -กล่าวถึงไปแนวทางฮีตบ้านครองเมือง  คือการดำเนินการปกครองบ้านเมืองเพื่อให้บ้านเมืองอยู่เป็นสุขและปฏิบัติตามประเพณี
 
 |  |